● ทำไมการซื้อประกันภัยเพื่อลดหย่อนภาษีจึงคุ้มค่า ?
● ซื้อประกันภัยแบบไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง ?
○ ประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
○ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท
○ ประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท
○ เบี้ยประกันภัยของบุคคลอื่น ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ได้
● เลือกซื้อประกันออนไลน์ที่ใช้ ลดหย่อนภาษีได้ทันที
เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องมาคิดเรื่องการวางแผนลดหย่อน ภาษีกันอย่างจริงจัง เพราะเรื่องภาษีไม่ใช่แค่การเตรียมเอกสารรายได้ให้พร้อมเท่านั้น แต่ต้องให้ความคุ้มค่าในด้านอื่น ๆ ด้วย หนึ่งในนั้นคือการซื้อประกันภัยเพื่อลดหย่อนภาษี เพราะนอกจากจะช่วยให้เราจ่ายภาษีน้อยลงแล้ว ยังได้ความคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพติดตัวไปในระยะยาวอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนภาษีที่ต้องจ่ายให้เป็นหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงในอนาคต แต่ประกันอะไรที่ลดหย่อนภาษีได้บ้าง และสามารถนำไปลดหย่อนได้สูงสุดเท่าไร รวมถึงมีเงื่อนไขอะไรที่เราควรต้องศึกษาเอาไว้ เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดในการเลือกซื้อประกันชีวิตสำหรับลดหย่อนภาษีปี 2568
รัฐบาลให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ในการทำประกันชีวิตและทำประกันสุขภาพ เพราะต้องการให้ประชาชนวางแผนชีวิตและการเงินในระยะยาว พร้อมกับสร้างความมั่นคงทางการเงิน อีกทั้งยังเป็นการลดภาระทางการเงินของทางภาครัฐในการดูแลผู้ป่วยหรือครอบครัวผู้เสียชีวิต ทำให้ผู้ที่ทำประกันภัยตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดจะได้รับทั้งสิทธิลดหย่อนภาษี และความคุ้มครองตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เป็นความคุ้มค่าแบบคูณสอง ซึ่งการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ มีข้อดีที่สำคัญดังต่อไปนี้
● ช่วยลดภาระภาษีได้ทันที โดยสามารถนำเงินที่จ่ายเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนด
● ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาประกันภัย
● สร้างวินัยทางการออม ตัวอย่างเช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จะมีให้เลือกออมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยทางการออมไปด้วยในตัว นอกจากนี้ เมื่อครบกำหนดจะได้รับเงินคืนและเงินก้อนตามที่ระบุเอาไว้ในสัญญา
ด้วยเหตุนี้ การซื้อประกันลดหย่อนภาษีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเงินที่ซื้อประกันภัยไม่ได้หายไปเฉย ๆ แต่กลับเปลี่ยนเป็นความอุ่นใจเรื่องสุขภาพหรือความมั่นคงในอนาคตให้กับตัวเราเองและครอบครัว
แม้จะเป็นการซื้อประกันภัยเพื่อให้ได้สิทธิในการลดหย่อนภาษี แต่ก็ควรเลือกประเภทของประกันภัยที่ตรงกับเป้าหมายและความต้องการของแต่ละคน แล้วประกันภัยอะไรที่ลดหย่อนภาษีได้บ้าง และเหมาะกับใคร ไปดูกันเลย
เป็นกลุ่มประกันภัยที่เน้นให้ความคุ้มครองชีวิต โดยครอบครัวจะได้รับเงินชดเชยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ครอบครัว
ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
● ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองชีวิตตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
● ต้องทำกับบริษัทประกันภัยที่ประกอบกิจการในไทย
● หากมีการเวนคืนกรมธรรม์หรือยกเลิกสัญญาก่อนครบ 10 ปี จะเสียสิทธิการลดหย่อนภาษีทั้งหมด และต้องเสียภาษีย้อนหลังจากที่ได้ลดหย่อนไป
● ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life) เน้นคุ้มครองชีวิตระยะยาวหรือตลอดชีวิต มีเงินคืนหากครบกำหนดสัญญา
● ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term) คุ้มครองชีวิตในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 10 หรือ 20 ปี ค่าเบี้ยประกันชีวิตถูก แต่ไม่มีเงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา
● ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment) คุ้มครองชีวิตพร้อมออมเงินไปในตัว เหมาะกับคนที่อยากมีเงินก้อนในอนาคต
● ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) ได้ทั้งความคุ้มครองและมีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ใช้สิทธิลดหย่อนได้เฉพาะส่วนที่จ่ายเบี้ยประกันชีวิตเท่านั้น
เป็นรูปแบบประกันภัยที่ช่วยให้มีรายได้หลังเกษียณ โดยจะจ่ายผลตอบแทนตามช่วงเวลาที่กำหนด ในกรณีที่เสียชีวิตก่อนระยะเวลาที่กำหนด ครอบครัวจะได้เงินชดเชยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณอย่างมีแบบแผน
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
● ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป
● ต้องมีการจ่ายผลประโยชน์เงินบำนาญเป็นรายงวดแบบสม่ำเสมอในช่วงอายุที่กำหนด
● เบี้ยประกันบำนาญที่นำไปลดหย่อนภาษี เมื่อรวมกับเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุน RMF และกองทุน SSF ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
● หากทำประกันชีวิตทั่วไป กับปร ะกันชีวิตแบบบำนาญร่วมกัน สามารถแบ่งเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญให้ครบสิทธิได้ กล่าวคือ หากไม่ใช้สิทธิประกันชีวิตทั่วไป สามารถใช้เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และรวมกับเงินสะสมอื่น ๆ ไม่เกิน 500,000 บาท
● ต้องทำกับบริษัทประกันภัยที่ประกอบกิจการในไทย
● หากมีการเวนคืนกรมธรรม์หรือยกเลิกสัญญาก่อนครบ 10 ปี จะเสียสิทธิการลดหย่อนภาษีทั้งหมด และต้องเสียภาษีย้อนหลังจากที่ได้ลดหย่อนไป
เป็นประกันภัยที่เน้นคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก หรือโรคร้ายแรง โดยมีเงื่อนไขความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ระบุไว้
เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถนำมาใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปีและเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิต สามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
● ต้องทำกับบริษัทประกันภัยที่ประกอบกิจการในไทย
● ประกันสุขภาพที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่กำหนด
● ประกันภัยโรคร้ายแรง (Critical Illness)
● ประกันภัยการดูแลระยะยาว (Long Term Care)
นอกจากเบี้ยประกันภัยของตนเองแล้ว ยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยของบุคคลอื่นมาลดหย่อนภาษีได้ของเรา โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญ ดังนี้
● เบี้ยประกันสุขภาพของพ่อแม่ตนเองและของคู่สมรส ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท/คน โดยพ่อแม่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และหากมีพี่น้องที่ช่วยกันจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพให้บิดามารดา สิทธิจะถูกแบ่งตามจำนวนพี่น้องที่ยื่นขอรับสิทธิลดหย่อนภาษี เช่น หากมีพี่น้องที่ร่วมกันจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ 3 คน จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีคนละ 5,000 บาท
● เบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ กรณีจดทะเบียนสมรส และอยู่ด้วยกันตลอดปีภาษี สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี
● เมื่อนำเบี้ยประกันภัยของบุคคลที่อยู่ในความดูแลรวม กับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปของตนเอง ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
● ต้องทำกับบริษัทประกันภัยที่ประกอบกิจการในไทย
หากคุณกำลังมองหาวิธีวางแผนภาษีไปพร้อมกับดูแลชีวิตในระยะยาว การเลือกซื้อประกันภัยจึงไม่ใช่แค่การป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น แต่คือการลงทุนให้กับความมั่นคงของตัวคุณเองและครอบครัวในอนาคต
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อประกันออนไลน์ จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิตได้ทันที พร้อมรับทั้งความคุ้มครองและสิทธิลดหย่อนภาษีในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันชีวิตและสุขภาพ หรือประกันโรคร้ายแรง ก็สามารถคลิกซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้แล้ววันนี้
สนใจซื้อประกันออนไลน์ กับพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต คลิกเลย
หมายเหตุ
เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถนำมาใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปีและเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิต สามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
● ความคุ้มครองขึ้นกับแผนประกันภัยที่เลือก
● เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด
● ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจราย ละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
ข้อมูลอ้างอิง
● ร้อยเรื่องลดหย่อน ปีภาษี 2560
ไม่ใช่ เฉพาะประกันภัยที่เข้าเงื่อนไข จะเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนดเท่านั้น
เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถนำมาใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปีและเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิต สามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
หากว่าเป็นกรมธรรม์ที่เข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเหมือนกัน ไม่ว่าจะซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านตัวแทน หรือผ่านโทรศัพท์