ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนเกือบตลอดปีของเมืองไทย ยิ่งในช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิทะยานสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ไม่ได้เพียงแต่ทำให้การใช้ชีวิตลำบากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะ "โรคลมแดด" ที่อันตรายเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ เราจะพาไปเข้าใจถึงโรคลมแดดกันให้มากขึ้น ทั้งสาเหตุ อาการ รวมถึงมีวิธีการปฐมพยาบาลหากเกิดอาการมาบอกกัน
“โรคลมแดด” หรือ “ฮีตสโตรก” ( Heatstroke ) คือ ภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นผิดปกติ เกิดจา กการอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิร้อนมาก ๆ หรือออกกำลังกายอย่างหนักในที่ที่ไม่มีอากาศถ่ายเท อบอ้าว หรือมีอุณหภูมิสูง จนร่างกายไม่สามารถปรับลดอุณหภูมิภายในให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ จึงส่งผลกระทบต่อระบบประสาท หัวใจ และไต ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยปกติแล้ว ร่างกายของมนุษย์สามารถปรับอุณหภูมิเพื่อรักษาสมดุลเอาไว้ที่ 36 - 37.5 องศาเซลเซียส หากช่วงไหนที่อากาศร้อนมาก ๆ หรือออกกำลังกายหนัก ร่างกายจะขับเหงื่อออกมาเพื่อระบายความร้อน แต่หากว่าอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนจัด บวกกับใส่เสื้อผ้าหนา หรือร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ก็อาจจะทำให้เกิดอาการฮีตสโตรกได้เช่นเดียวกัน
บุคคลต่าง ๆ เหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่อากาศร้อนจัด แนะนำใ ห้ใส่เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อลดภาวะเสี่ยง
● ผู้สูงอายุและเด็กเล็ก เป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคฮีตสโตรกได้ง่ายกว่าวัยอื่น ๆ เนื่องจากร่างกายมีการปรับตัวได้ช้า
● ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก และอยู่ในที่ที่อากาศร้อนจัด ไม่ถ่ายเท
● ผู้ที่อยู่ในภูมิอากาศหนาว แล้วมาท่องเที่ยวในภูมิภาคที่อากาศร้อนจัด
● ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน
ในช่วงที่อากาศร้อน แนะนำให้สังเกตอาการคนรอบข้าง เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เป็นฮีตสโตรก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยมีอาการที่สังเกตเห็นได้ชัด ดังนี้
● อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป
● ผิวหนังแห้งและร้อน สังเกตบริเวณผิวหนังเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ
● ตัวร้อน แต่ไม่มีเหงื่อ เป็นสัญญาณว่าร่างกายไม่สามารถระบายความร้อน หรือรักษาสมดุลได้
● ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว
● หัวใจเต้นเร็วแรง
● กระหายน้ำอย่างรุนแรง
● มีอาการหายใจหอบ
● วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และอาจจะมีอาการปวดหัวร่วมด้วย
● รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน
● ชัก เกร็ง และอาจจะหมดสติได้
ในช่วงที่ประเทศไทยอากาศร้อน แนะนำให้ทุกคนดูแลสุขภาพและร่างกายให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคลมแดดหรือฮีตสโตรก โดยการปฏิบัติดังต่อไปนี้
ในช่วงที่อากาศร้อนจัด แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำงานกลางแจ้ง หรือทำงานในที่อับ ไม่สามารถระบายอากาศได้ดี รวมถึงการอยู่ในรถยนต์หรือยานพาหนะต่าง ๆ แม้ว่าจะเปิดหน้าต่างรถยนต์หรือจอดในร่มก็ตาม
สำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้งให้สังเกตอาการผิดปกติ หากพบว่าเริ่มมีอาการอ่อนเพลียหรือหน้ามืด ให้เข้าไปพักในที่ร่ม ดื่มน้ำ และล้างหน้า เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากว่าในช่วงที่อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เพื่อลดอุณหภูมิภายในร่างกายให้ลดลง เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
พยายามใส่เสื้อผ้าที่โปร่งและสามารถระบายอากาศได้ดี ไม่สวมเสื้อผ้าเนื้อหนา หรือทำให้ร่างกายอับและร ้อน โดยแนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่หลวม ใส่สบาย พอดีตัว และไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป สวมหมวกกันแดดหรือกางร่ม และสวมแว่นกันแดด นอกจากนี้ แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงหรือกระโปรงยาว ที่สามารถกันแดดและรังสียูวีได้
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้ร่างกายร้อนขึ้น ยังทำให้ปัสสาวะบ่อย จนร่างกายสูญเสียเกลือแร่ และอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีตสโตรกมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะการออกกำลังกายหนักและ กินเวลานาน แนะนำให้ออกกำลังกายในฟิตเนส หรือเลือกออกกำลังในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ๆ แทนจะดีกว่า
ในกรณีที่เจอกับผู้ป่วยโรคลมแดด หรือผู้ที่อุณหภูมิร่างกายเริ่มสูงขึ้น แนะนำให้ปฐมพยาบาลเพื่อบรรเทาอาการ ดังนี้
เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด และอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นกว่าเดิม หากว่าแถวนั้นมีห้องปรับอากาศ หรือเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างเย็น ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังห้องดังกล่าว เพื่อลดอุณหภูมิให้ต่ำลง
เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด และช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้เร็วยิ่งขึ้น จากนั้นให้ถอดเสื้อคลุมที่หนาและไม่ระบายอา กาศออกจากตัวผู้ป่วย หรือคลายเสื้อผ้าให้หลวมขึ้น เพื่อให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
เป็นการลดอุณหภูมิร่างกาย และระบายความร้อน จากนั้นให้ใช้พัดลมเป่าที่ตัวผู้ป่วย เพื่อเร่งให้ร่างกายระบายความร้อนออกมา
เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด หากว่ามีน้ำแข็งให้นำมาประคบบริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ และหลัง เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย
วิธีการที่กล่าวมาเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่ใช่การรักษาอาการฮีตสโตรก โดยเฉพาะหากว่าอวัยวะภายในล้มเหลว แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียด ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ ้นกับอวัยวะสำคัญของร่างกาย
หากประสบกับอาการของโรคลมแดด จำเป็นต้องได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี และการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อความปลอดภัย และหากว่ามีประกันสุขภาพติดไว้ ก็จะช่วยให้เบาใจในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ขอแนะนำประกันสุขภาพเหมาจ่าย PRUe-Healthcare Plus เจ็บป่วยเมื่อไร ไม่ต้องใช้เงินเก็บ เคลมได้จริง สูงสุด 50,000 บาท เบี้ยฯ เริ่มต้น 14 บาท/วัน* คุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย ปรับแผนได้ตามความเสี่ยง ซื้อวันนี้รับโปรโมชันเพียบ เช็กเบี้ยฯ และสมัครผ่านออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
*กรณีเพศชาย อายุ 30 ปี แผนความคุ้มครอง 1 เลือก deductible 60,000 บาท
ข้อมูลอ้างอิง
3. โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) โรคใหม่ที่คุณควรรู้ไว้
4. แพทย์เตือนคนทำงานกลางแจ้งเสี่ยง โรคลมแดด อาจถึงตาย แนะวิธีป้องกัน