Date  
24th October 2023

ความปลอดภัยของตนเองและคนในครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ว่าใครก็อยากปกป้องดูแล การทำประกันชีวิตจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ใครหลายคน แต่ในการทำประกันชีวิตก็มีรายละเอียดเฉพาะมากมายในแต่ละกรมธรรม์ ทำให้ผู้ที่สนใจอยากทำประกันไม่แน่ใจว่าควรเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ที่จะเหมาะสมกับตนเองและครอบครัวมากที่สุด ใครที่กำลังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำประกันชีวิต วันนี้เรามีข้อควรรู้ดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณเลือกซื้อประกันชีวิตได้อย่างตรงใจมาฝากกัน!

 

ข้อดีของประกันชีวิต

 

ประโยชน์ด้านความคุ้มครอง

 

ในการทำประกันชีวิต ประโยชน์ด้านการคุ้มครองถือเป็นข้อดีอันดับแรก ๆ ที่คนอยากทำประกันให้ความสำคัญ เพราะหากประกันชีวิตนั้น ๆ ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ก็ย่อมทำให้คุณและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ประกันชีวิตก็จะช่วยแบ่งหนักให้เป็นเบา พร้อมดูแลคุณและคนในครอบครัวตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่คุณได้ทำเอาไว้

โดยความคุ้มครองก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันชีวิตที่คุณเลือกทำไว้ ที่จะมีทั้งให้การดูแลในเรื่องค่ารักษาพยาบาล การชดเชยรายได้ หรือการจ่ายเงินชดเชยตามที่ระบุไว้ในสัญญากรณีเสียชีวิต

 

ส่งผลต่อแผนการเงินในระยะยาว

 

การชำระเบี้ยประกันเป็นประจำทุกเดือน จะช่วยสร้างวินัยในการเก็บออม ซึ่งถึงแม้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่ได้อยู่ในมือโดยตรง แต่การทำประกันชีวิตแบบการออมทรัพย์หรือสะสมทรัพย์ ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนทางการเงินในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย และได้รับผลตอบแทนเป็นเงินก้อนเมื่อครบสัญญา เพื่อส่งต่อให้ลูกหลาน หรือนำมาใช้ยามเกษียณ

 

เป็นที่พึ่งสำคัญยามฉุกเฉิน

 

การทำประกันชีวิตเอาไว้ จะช่วยให้มีเงินใช้จ่ายในยามจำเป็นหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น การเสียชีวิตของหัวหน้าครอบครัว รวมถึงการเกิดโรคร้ายแรง หรืออุบัติเหตุ เงินที่ได้จากประกันชีวิตจะช่วยให้มีเงินสำรองในการดำเนินชีวิตต่อไปได้ในยามฉุกเฉิน โดยไม่ส่งผลกระทบมากนัก

 

ลดหย่อนภาษี

 

ผู้ที่มีรายได้และต้องเสียภาษีเป็นประจำย่อมรู้ดีว่า จะต้องวางแผนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในแต่ละปี ซึ่งเบี้ยประกันชีวิตที่มีระยะเวลาคุ้มครองชีวิตตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ก็สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน ซึ่งสามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี สำหรับบุคคลธรรมดา โดยเบี้ยประกันสุขภาพ สามารถนำมาใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิต จะสามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท สำหรับเบี้ยประกันของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ

 

รู้จักให้ครบว่าประกันชีวิตมีกี่แบบ!

 

ในการจะเลือกทำประกันชีวิตให้เหมาะสมนั้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักประเภทของประกันชีวิตให้ครบเสียก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจเลือกทำประกันที่คุ้มค่ากับความต้องการที่สุด โดยมีรูปแบบของประกันชีวิตมีดังนี้

 

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Team Insurance)

 

เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาที่จำกัดเช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี ซึ่งกรมธรรม์จะสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ซึ่งหากพ้นกำหนดระยะเวลาในการคุ้มครองไปแล้วแต่ผู้เอาประกันยังมีชีวิตอยู่ สัญญาก็จะถือเป็นอันสิ้นสุด โดยผู้เอาประกันภัยจะไม่ได้รับเงินคืนจากกรมธรรม์ สำหรับข้อดีของประกันชีวิตประเภทนี้คือมีค่าเบี้ยประกันภัยที่ไม่สูงมากนัก

 

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

 

เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตลอดอายุขัย หรือจนถึงอายุที่กำหนด เช่น 90 ปี 99 ปี โดยหากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญาก็จะได้เงินทุนประกันชีวิตกลับไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ แต่หากเสียชีวิตในระยะเวลาที่คุ้มครอง ทายาทโดยธรรม หรือผู้รับผลประโยชน์จะได้เงินสินไหมทดแทนตามที่ระบุในกรมธรรม์ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพจึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการมีเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินเก็บ เพื่อให้ความคุ้มครองระยะยาวแก่ตนเองและครอบครัว แต่จะมีเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูง

 

แบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)

 

เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิต พร้อมการเก็บออมเงิน ซึ่งถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน ในระยะยาว ซึ่งหากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญาก็จะได้รับเงินทุนประกันคืนพร้อมดอกเบี้ยที่ทางบริษัทระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยจะเลือกรับเป็นก้อนเดียวเมื่อครบสัญญา หรือรับปันผลระหว่างการส่งเบี้ยประกันก็ได้เช่นกัน แต่หากเสียชีวิตในระหว่างปีกรมธรรม์ ทายาท หรือผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุไว้จะได้รับผลประโยชน์ตามที่กรมธรรม์กำหนด จึงถือเป็นการวางแผนการเงินในอนาคตที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งโดยส่วนใหญ่แล้วยังให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมเงินในธนาคารแบบปกติด้วย

 

แบบเงินได้ประจำ (Annuities Insurance)

 

หรือที่เรียกว่าประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองกรณีเกษียณอายุ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัย ทุกปี นับตั้งแต่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุ หรือมีอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี ตามสัญญา จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงด้วยการรับเงินอย่างสม่ำเสมอหลังเกษียณ แต่อาจให้ความคุ้มครองน้อยเมื่อเทียบกับแบบประกันชีวิตอื่น ๆ

 

ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked Insurance)

 

เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต และเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไปพร้อมกัน โดยเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนที่เป็นประกันชีวิตและอีกส่วนนำไปลงทุน ซึ่งส่วนที่เป็นเบี้ยประกันชีวิต จะถูกนำไปหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกันชีวิต เช่น ค่าบริหารจัดการกรมธรรม์ ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกกองทุนรวมได้ตามความเสี่ยงที่รับได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ โดยสามารถเพิ่มเงินในส่วนของเงินลงทุน หรือถอนเงินจากกรมธรรม์ในส่วนเงินลงทุนออกมาใช้ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน แต่จะไม่มีการรับประกันมูลค่ากรมธรรม์ เนื่องจากมูลค่ากรมธรรม์จะขึ้นอยู่กับมูลค่าหน่วยลงทุน โดยอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงตามผลประกอบการของกองทุนรวม

 

 

เลือกประกันชีวิตแบบไหนดี?

 

ใครที่กำลังวางแผนทำประกันชีวิต แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรทำแบบไหนดี อาจพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

 

กำหนดเป้าหมาย

 

การกำหนดเป้าหมายนับเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถตัดสินใจเลือกประเภทประกันชีวิตที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ง่ายขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายว่า ต้องการทำประกันชีวิตไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อเป็นเงินมรดก เพื่อเป็นเงินออม หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายยามเกษียณ แล้วนำมาเป็นหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจ ก็จะช่วยให้สามารถทำประกันได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด

 

พิจารณาประโยชน์ที่เหมาะสมกับความต้องการ

 

หลังจากกำหนดเป้าหมายได้แล้ว ยังต้องพิจารณาถึงประโยชน์ที่เหมาะสมกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของผู้เอาประกันด้วย ซึ่งมีหลากหลายด้าน ดังนี้

● ประโยชน์ด้านความคุ้มครองชีวิต คือการให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยและครอบครัวในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ

● ประโยชน์ด้านการลงทุน คือโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจากเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป

● ประโยชน์ด้านภาษี คือการลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป

 

เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ

 

บริษัทประกันภัยและตัวแทนประกันภัยนับเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกทำประกันชีวิต โดยควรเลือกบริษัทหรือตัวแทนที่ให้ข้อมูลได้อย่างครบถ้วน สามารถอธิบายทุกข้อสงสัยได้อย่างกระจ่าง โดยไม่ปกปิดข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ อีกทั้งยังต้องพิจารณาจากบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันได้ตามกรมธรรม์

 

หากเลือกไม่ถูกว่าควรทำประกันชีวิตที่ไหนดี? เลือกประกันชีวิต PRULife Care จาก Prudential ที่พร้อมดูแลจากเบี้ยฯ หลักพัน แต่ให้ความคุ้มครองหลักล้าน! ทั้งยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปีและรับเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ให้ครอบครัวและคนที่รักอุ่นใจแม้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเลือกซื้อประกันที่ใช่ได้เองง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. รอบรู้เรื่องประกันชีวิต. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 จาก https://lifeif.or.th/wp-content/uploads/2018/05/รอบรู้เรื่องประกันชีวิต

2. ประกันชีวิตมีกี่แบบ ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.moneybuffalo.in.th/insurance/type-of-life-insurance

3. เลือกประกันชีวิตแบบไหน ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราที่สุด?. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.finnomena.com/finspace/life-insurance-life-style/