Date  
2nd September 2024

ใครที่อากาศเปลี่ยนนิด ชีวิตก็แย่ เพราะป่วยบ่อย รู้สึกว่าร่างกายไม่แข็งแรง อาจเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง ขาดการดูแลสุขภาพร่างกายที่ดี หรืออาจจะเกิดจากความเครียดต่าง ๆ ใครที่ตกอยู่ในสภาวะนี้ มาลองตรวจดูสาเหตุและวิธีแก้ไขกัน

   

รู้จักระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

   

ที่จริงแล้วรอบตัวเราเต็มไปด้วยเชื้อโรคมากมาย แต่ที่เราไม่ป่วยทุกวัน เป็นเพราะว่าร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันคอยป้องกันและฆ่าเชื้อโรค แต่หากว่าเชื้อโรคมีจำนวนมากเกินไป หรือว่าภูมิคุ้มกันของโรคอ่อนแอลง ก็อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้

 

ประเภทของระบบภูมิคุ้มกัน

  

ระบบภูมิคุ้มกันมีหลากหลายรูปแบบและหลากหลายชนิด แต่สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

  

1. ภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด เป็นภูมิคุ้มกันที่ได้รับมาตั้งแต่กำเนิด ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง เยื่อบุต่าง ๆ เซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยให้เด็ก ๆ สามารถต้านทานโรคได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา

 

2. ภูมิคุ้มกันที่ได้มาภายหลัง เป็นภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากที่ได้รับเชื้อโรคหรือวัคซีน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้

 

หน้าที่ของภูมิคุ้มกัน

  

ภูมิคุ้มกันของร่างกายคนเราเหมือนกับเป็นทหารที่คอยปกป้องประเทศไม่ให้เชื้อโรคมาทำลาย โดยมีหน้าที่สำคัญดังต่อไปนี้

  

● ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เป็นด่านแรกของการป้องกันเชื้อโรค โดยผิวหนังจะเป็นเกราะตามธรรมชาติ ไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาในร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีสารคัดหลั่งอย่าง น้ำตา และน้ำลาย ที่ช่วยกำจัดและฆ่าเชื้อโรคอีกด้วย

 

● ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย หากว่าเชื้อโรคสามารถผ่านด่านแรกมาได้ ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะตรวจจับและส่งสัญญาณเพื่อต่อสู้กับความผิดปกติดังกล่าว

 

● กำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย รวมถึงการต่อสู้กับเซลล์ในร่างกายที่ผิดปกติอย่างเซลล์มะเร็ง

  

เจาะลึกสาเหตุ ทำไมภูมิคุ้มกันถึงอ่อนแอ

 

หลายคนเวลาที่เจ็บป่วยมักจะพูดว่าตัวเองภูมิตก ซึ่งหมายถึงการที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง แต่รู้หรือไม่ว่า การที่ภูมิคุ้มกันน้อยลงมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

 

1. กรรมพันธุ์

 

ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ หากว่าพ่อแม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและสมบูรณ์ ลูกก็มักจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงด้วยเช่นเดียวกัน

 

2. การดูแลสุขภาพไม่ดีพอ 

  

สาเหตุที่ภูมิคุ้มกันตก อาจจะมาจากสาเหตุหลัก ๆ 3 ประการคือ

  

● การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ กินแต่ขนม ไม่กินผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ

● ไม่ออกกำลังกาย หรือไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอลง

● พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่ได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่

 

3. ความเครียด

  

ความเครียดส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด เนื่องจากทำให้ฮอร์โมนในร่างกายขาดความสมดุล ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้ร่างกายเจ็บป่วยและติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้ ความเครียดยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงอย่างโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเครียดลงกระเพาะ และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย

 

4. ช่วงอายุ 

  

ในช่วงแรกเกิด ร่างกายมีภูมิคุ้มกันน้อยและเจ็บป่วยบ่อย แต่หลังจากนั้น ร่างกายจะค่อย ๆ สร้างภูมิต้านทานจนแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่จะเสื่อมถอยลงไปตามธรรมชาติ เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น

 

 

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

  

หากช่วงไหนรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ หรือว่าป่วยบ่อย แนะนำให้หันกลับมาดูแลร่างกายและจิตใจ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ตนเอง เพราะแม้ว่าภูมิคุ้มกันที่ได้จากพ่อแม่อาจจะไม่แข็งแรงมากนัก แต่หากว่ารู้จักดูแลร่างกายก็จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางตรงกันข้าม หากว่าแต่เดิมภูมิคุ้มกันแข็งแรง แต่ไม่ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี ก็อาจจะทำให้ป่วยได้เช่นเดียวกัน โดยมีวิธีดูแลและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

 

กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

เน้นการรับประทานผักและผลไม้หลากสี ที่มีวิตามินและแร่ธาตุ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย นอกจากนี้ ให้เพิ่มการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติก อย่างโยเกิร์ต ผักดอง กิมจิ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับระบบย่อยอาหารและลำไส้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกาย

 

นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังควรลดการกินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง รวมถึงลดอาหารแปรรูป ซึ่งจะทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น และมีสุขภาพที่อ่อนแอลง

 

กินวิตามินเสริม

  

สำหรับผู้ที่รับสารอาหารไม่เพียงพอ มีความเครียด หรือร่างกายต้องการตัวช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทานวิตามินจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น เช่น วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี สังกะสี และซีลีเนียม

  

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนการรับประทานวิตามินเสริม โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องรับประทานยาเป็นประจำ

  

พักผ่อนให้เพียงพอ

  

ขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะได้รับการซ่อมแซมส่วนสึกหรอ พร้อมทั้งช่วยปรับจูนความสมดุลของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงควรนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ฟื้นฟู

 

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

  

การออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย แนะนำให้เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างการเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ เต้น ปั่นจักรยาน สลับกับการยกเวทเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

การออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้เลือดหมุนเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี

 

ผ่อนคลายจิตใจ

 

หากว่าใครรู้ตัวว่าอยู่ในภาวะเครียด แนะนำให้ลองเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการนั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อสร้างความสมดุลให้ฮอร์โมนในร่างกาย

 

ซื้อประกันสุขภาพ หมดกังวลเรื่องค่ารักษายามภูมิตก

 

ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ป่วยบ่อย ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย PRUe-Healthcare Plus เจ็บป่วยไม่ต้องใช้เงินเก็บ เคลมได้ตามจริง สูงสุด 500,000 บาท เบี้ยเริ่มต้น 14 บาท/วัน* สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองโรคมะเร็ง โรคร้ายแรง และชดเชยรายได้ กรณีนอนโรงพยาบาลเพิ่มเติมได้ มี 3 แผนให้เลือกตามความต้องการ

 

*เบี้ยประกันภัยสำหรับเพศชาย อายุ 30 ปี แผนความคุ้มครอง 1 เลือก deductible 60,000 บาท

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. รู้จัก “ภูมิคุ้มกันต่ำ” สาเหตุหลักทำให้ "ป่วย" บ่อย

2. ป่วยบ่อยอาจเพราะไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกัน

3. ระบบภูมิคุ้มกันคืออะไร?