ในปัจจุบันหลายคนเห็นถึงความสำคัญของการทำประกันชีวิตกันมากขึ้น เพราะให้ความคุ้มครองในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำหรือแบบบำนาญ รวมถึงประกันชีวิตแบบควบการลงทุน ซึ่งในแต่ละประเภทก็มีความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป
ยิ่งในยุคนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจอยากทำประกัน แต่บางครั้งยังสับสนว่า ควรเลือกประกันชีวิตแบบไหนดีถึงจะเหมาะกับตนเองที่สุด เพราะการเลือกประกันชีวิต ยังต้องดูถึงช่วงอายุตามวัยเพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำประกัน เรามีเทคนิคการเลือกซื้อประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ในแต่ละช่วงวัยมาฝากกัน ติดตามได้เลย
เป็นประกันชีวิตที่มุ่งเน้นความคุ้มครองต่อชีวิตเป็นหลัก และสามารถเลือกระยะเวลาคุ้มครอง รวมถึงระยะเวลาชำระเบี้ยที่เหมาะสมแก่ตนเองได้ เช่น 5 ปี และ 10 ปี ในกรณีที่เสียชีวิตในระยะเวลาที่ประกันคุ้มครอง เงินประกันจะตกอยู่กับผู้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทายาทหรือว่าคนในครอบครัว แต่หากมีชีวิตอยู่จนถึงครบกำหนด ผู้เอาประกันจะไม่ได้รับทุนประกันคืน
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือต้องการบริหารความเสี่ยงในระยะเวลาสั้น ๆ หรือมีความสามารถในการชำระค่าเบี้ยประกันต่ำ
สำหรับคนที่กำลังคิดอยู่ว่า ควรซื้อประกันชีวิตแบบไหนดีที่ให้ความคุ้มครองระยะยาว ประกันชีวิตแบบตลอดชีพอาจตอบโจทย์ที่สุด โดยผู้เอาประกันจะต้องชำระค่าเบี้ยเพียงระยะเวลาหนึ่ง เช่น จ่ายเบี้ยประกัน 20 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองถึงอายุ 90 ปี และในกรณีที่เสียชีวิตในช่วงเวลาที่ประกันยังคุ้มครอง ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ก็จะได้รับเงินประกันไป หรือถ้าอยู่จนครบช่วงอายุที่กำหนด ผู้เอาประกันก็จะได้รับทุนประกันชีวิตกลับคืน
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการสร้างหลักประกันไว้ให้แก่คนข้างหลัง หากต้องเสียชีวิตลง หรือต้องการมีเงินก้อน เพื่อส่งต่อไว้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน
ประกันชีวิตที่จะจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้เอาประกัน ต่อเมื่ออยู่ครบตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา โดยจะได้รับเป็นทุนประกันและผลประโยชน์เพิ่มเติม ส่วนในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญา บริษัทประกันจะจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ นับเป็นอีกหนึ่งแผนการออมเงินที่คุ้มค่า อีกทั้งยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างวินัยในการออม เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต รวมถึงเหมาะกันคนที่ต้องการลงทุน แต่สามารถรับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นได้น้อย
อีกรูปแบบประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองระยะยาว เช่นเดียวกันกับประกันตลอดชีพ ซึ่งผู้เอาประกันต้อ งจ่ายค่าเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงอายุหนึ่ง เช่น จ่ายเบี้ยประกันจนถึงอายุ 55 ปี 60 ปี หรือ 65 ปี หรือจ่ายตามกำหนดเช่น 1 ปี หรือ 5 ปี และเมื่อถึงอายุที่กำหนด บริษัทประกันจะจ่ายเงินบำนาญให้แก่ผู้เอาประกัน เป็นระยะเวลาตามเงื่อนไขของสัญญา และที่สำคัญคือประกันประเภทนี้ สามารถนำเบี้ยประกันมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ รวมถึงมีเงินไว้ส่งต่อเป็นมรดกให้แก่ลูกหลานได้
ประกันชีวิตที่ไม่เพียงให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังให้คุณได้ลงทุนในกองทุนรวม โดยผู้เอาประกันสามารถปรับรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ ซึ่งผลตอบแทนที่ผู้เอาประกันได้รับ จะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนจากการลงทุน
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน และยอมรับความเสี่ยงได้ รวมถึงผู้ที่ต้องการออมเงิน หรืออยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันชีวิตประเภทอื่น ๆ
ในการเลือกซื้อประกันชีวิตควรพิจารณาให้เหมาะสมกับช่วงวัยหรือช่วงเวลาของชีวิต เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยการเลือกทำประกันชีวิตให้เหมาะสมตามช่วงอายุแบ่งได้เป็น
● วัยทำงาน (อายุประมาณ 21-30 ปี) เป็นวัยที่ต้องคำนึงถึงการสร้างความมั่นคงในชีวิต จึงเหมาะกับการทำประกัน ชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
● วัยสร้างครอบครัว (อายุประมาณ 31-50 ปี) เป็นวัยที่ต้องการสร้างความคุ้มครองให้กับชีวิต และมีเงินก้อนสำหรับครอบครัวในยามฉุกเฉิน เหมาะสำหรับการทำประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีวิต
● วัยเกษียณ (อายุประมาณ 51 ปีขึ้นไป) เป็นวัยที่ต้องการความมั่นคงในช่วงบั้นปลายชีวิต และสะสมเงินทุนให้ลูกหลานได้นำไปใช้ในอนาคต จึงเหมาะสำหรับประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำหรือแบบบำนาญ
เนื่องจากในปัจจุบัน ประกันชีวิตมีให้เลือกหลากหลายประเภท โดยผู้ที่สนใจทำประกันควรศึกษาข้อมูลความคุ้มครองของประกันในแต่ละประเภทให้ถี่ถ้วน เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ และรูปแบบการใช้ชีวิตของตนเอง
เมื่อเลือกประกันที่มีความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตแล้ว ยังควรเลือกประกันที่ให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าด้วย โดยให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับค่าเบี้ยประกัน หรือให้ความคุ้มครองครอบคลุมในระยะยาว เพื่อมั่นใจได้ว่าจะเป็นหลักประกันที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิตในอนาคตได้
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องรู้ก็คือ การจ่ายเบี้ยประกันระยะสั้นใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะการจ่ายเบี้ยประกันแบบสั้นและยาวจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ถ้าต้องการความคุ้มครองเพียงแค่ระยะเวลาหนึ่ง จะเหมาะกับการจ่ายเบี้ยประกันแบบสั้น แต่ถ้าต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงวัยเกษียณ ควรเลือกจ่ายเบี้ยประกันแบบยาว หรือควรเลือกประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตรงตามเป้าหมายของชีวิตก็จะดีที่สุด รวมถึงมีค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมที่เราสามารถจ่ายได้ไหวด้วย
สิ่งสำคัญประการสุดท้ายในการตัดสินใจเลือกทำประกันชีวิต คือควรทำกับบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมให้ข้อมูลความคุ้มครองต่าง ๆ อย่างไม่หมกเม็ด และแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้เอาประกัน โดยให้ตรวจสอบจากชื่อเสียงของบริษัทประกัน และรีวิวของผู้ที่เคยให้บริการมาก่อน
ทั้งหมดนี้ คงช่วยให้ได้รู้แล้วว่าเลือกประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะกับตนเอง และสำหรับใครที่กำลังมองหาประกันชีวิตประเภทที่ใช่ ที่ Prudential มีประกันชีวิตประเภทต่าง ๆ ให้เลือกหลากหลายประเภท โดยคุณสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน และซื้อป ระกันออนไลน์ได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
1. 5 Different Types of Life Insurance. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 จาก https://www.nerdwallet.com/article/insurance/types-of-life-insurance
2. Types Of Life Insurance Policies. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 จาก https://www.forbes.com/advisor/life-insurance/types/
3. Types of Life Insurance Plans and How to Decide Which One Is Right for You. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 จาก https://www.investopedia.com/types-of-life-insurance-plans-and-how-to-decide-which-one-is-right-for-you-7482251