Date  
9th December 2024

ในยามที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) สิ่งที่สร้างความกังวลใจ นอกจากความเจ็บป่วยทางร่างกายแล้ว ยังเป็นเรื่องของค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น การมีประกัน IPD จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันชีวิตและสุขภาพนั้น ควรมีการวางแผนทางการเงินเสียก่อน เพื่อที่จะได้เลือกแผนประกันชีวิตและสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุมและคุ้มค่า เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตนเอง และสามารถชำระค่าเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง

 

ความสำคัญของการทำประกัน IPD

 

ความสำคัญของการซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ มีอยู่หลากหลายประการด้วยกัน ดังนี้

 

แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา

 

ด้วยค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน (IPD) มีอัตราค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน การมีประกัน ชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหลัก ๆ เช่น ค่าห้องพัก ค่ายา ค่าตรวจวินิจฉัย ค่าแพทย์ตรวจเยี่ยมไข้ และค่าผ่าตัด สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับได้เป็นอย่างมาก

 

เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที

 

ในกรณีเกิดการเจ็บป่วยต้องรักษาอย่างเร่งด่วน หากมีประกัน ชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุม จะช่วยให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานได้อย่างรวดเร็วและใกล้ที่สุด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

 

เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน

  

การมีประกัน ชีวิตและสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุม จะช่วยให้ไม่ต้องนำเงินออมออกมาใช้จ่ายเป็นค่ารักษาในกรณีที่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ยังมีเงินเก็บ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

 

 

เทคนิคการเลือกซื้อประกัน IPD กับการวางแผนทางการเงิน

 

การเลือกประกัน IPD ที่เหมาะสมไม่ใช่เพียงแค่เลือกจากค่าเบี้ยประกันภัยที่ต่ำที่สุด แต่ควรพิจารณาร่วมกับการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่ครอบคลุม โดยมีแนวทางในการพิจารณา ดังนี้

 

1. สำรวจเงินสำรองของตนเอง

 

ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตรวจสอบเงินสำรองฉุกเฉินของตนเอง ซึ่งควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ หากเจ็บป่วยขึ้นมากะทันหัน จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและต้องขาดรายได้ไป

 

2. ตรวจสอบรายรับ-รายจ่าย

 

อันดับต่อมาคือการทำความเข้าใจสถานะทางการเงินของตนเอง ด้วยการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน การรู้ตัวเลขเหล่านี้จะช่วยให้กำหนดวงเงินที่สามารถจ่ายเป็นเบี้ยประกันภัยได้ โดยไม่เกินวงเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หรือไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายจนเกินไป

 

3. ประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล

 

สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเลือกซื้อประกัน ชีวิตและสุขภาพที่มีรูปแบบความคุ้มครองอย่างไร ถึงจะตอบโจทย์มากที่สุด ให้ลองศึกษาค่ารักษาของโรงพยาบาลต่าง ๆ และความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคที่หมุนเวียนมาทุกปี เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ที่ส่วนมากต้องเข้ารับการรักษาตัวประมาณ 3-5 คืน และมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 46,000-72,000 บาท การรู้ถึงค่าใช้จ่ายเหล่านี้ จะช่วยให้สามารถเลือกแผนประกัน ชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอ

 

4. เช็กสวัสดิการความคุ้มครองด้านการรักษา

 

ในส่วนของคนที่ทำงานในบริษัท องค์กร หรือหน่วยงานที่มีสวัสดิการด้านสุขภาพอยู่แล้ว ให้ตรวจสอบว่าความคุ้มครองที่ได้รับครอบคลุมค่าใช้จ่ายในด้านใดบ้าง เช่น ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าห้องพัก หรือค่าผ่าตัด จากนั้นเลือกทำแผนประกัน ชีวิตและสุขภาพของตนเอง เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดไป เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ได้มากที่สุด

 

5. เลือกแบบประกัน ชีวิตและสุขภาพ และวงเงินที่ตอบโจทย์ความคุ้มครอง

 

สิ่งสำคัญประการต่อมาคือควรเลือกแผนประกันชีวิตและสุขภาพ ที่มีวงเงินความคุ้มครองเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลที่ตนเอง ไปใช้บริการบ่อย ๆ เช่น วงเงินค่าห้อง 2,000-5,000 บาทต่อคืน ก็ควรเลือกแผนประกัน ชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมค่าห้องไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท

 

6. ทบทวนความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน ชีวิตและสุขภาพ

 

อีกสิ่งที่ต้องพิจารณาคือความสามารถในการชำระค่าเบี้ยประกัน ชีวิตและสุขภาพในระยะยาว โดยไม่ควรเลือกแผนที่มีค่าเบี้ยฯ สูงจนเกินกำลัง เพราะอาจทำให้ขาดความต่อเนื่องในการชำระค่าเบี้ยฯ ในอนาคตได้ ทั้งยังอาจกระทบต่อความคุ้มครองเมื่อเราเจ็บป่วยจนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกด้วย

 

7. ขยายความคุ้มครองเพิ่มเติม เมื่อมีความพร้อมมากขึ้น

 

หากงบประมาณในปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอสำหรับแผนประกัน ชีวิตและสุขภาพที่เราต้องการ สามารถเริ่มต้นด้วยแผนพื้นฐาน และค่อย ๆ ปรับแผนเพื่อขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมในอนาคต เมื่อสถานะทางการเงินเริ่มมั่นคงขึ้น

 

เพราะการวางแผนการเงินก่อนซื้อประกัน IPD เพื่อการดูแลสุขภาพ เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับสถานะทางการเงิน ทำให้เราสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันหากต้องเจ็บป่วยได้อย่างมั่นใจ

 

การวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย ด้วยการทำประกันสุขภาพ IPD เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทั้งยังช่วยให้หมดกังวลว่าหากล้มป่วยโดยที่ไม่คาดคิด จะไม่ต้องไปรบกวนเงินออมเพื่อมาใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล สำหรับคนที่มองหาประกัน ชีวิตและสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองคุ้มค่าและค่าเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม เลือก PRUHealthcare Plus จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต สมัครทางออนไลน์ได้เลย