Date  
30th April 2025

แม้ว่าประกันสังคมจะเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์สำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของผู้มีรายได้ประจำ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโรคจะสามารถเข้ารับการรักษาภายใต้สิทธินี้ได้ ดังนั้นการเข้าใจโรคที่ประกันสังคมไม่คุ้มครอง จะช่วยให้คุณสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวได้อย่างเหมาะสม รวมถึงไม่กระทบต่อการเงินและการใช้ชีวิตในระยะยาวด้วย

 

   

การรักษาพยาบาลและโรคยกเว้นที่ไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม

 

สำหรับโรคยกเว้น ที่ไม่สามารถใช้บริการทางการแพทย์หรือรักษาด้วยสิทธิประกันสังคมได้ มีอยู่ด้วยกัน 13 กรณีดังนี้

 

1. โรคหรือการประสบอันตรายจากสารเสพติด

 

หากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุเกิดจากการใช้สารเสพติด ประกันสังคมจะไม่ให้ความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยจากการเสพโดยตรง หรือเกิดอุบัติเหตุขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของสารเสพติด

 

2. โรคเดียวกันที่ต้องใช้ระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาล

 

สำหรับผู้ที่ป่วยด้วยโรคเดียว และต้องเข้าพักรักษาตัวแบบผู้ป่วยในเกิน 180 วันใน 1 ปี ประกันสังคมจะให้ความคุ้มครองเฉพาะในช่วง 180 วันแรกเท่านั้น

 

3. การบำบัดทดแทนไต

 

การบำบัดทดแทนไตจะไม่อยู่ในความคุ้มครองของประกันสังคม แต่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ซึ่งจะได้รับสิทธิในการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการล้างช่องท้องด้วยน้ำยาอย่างถาวร รวมถึงการปลูกถ่ายไต

 

4. การกระทำใด ๆ เพื่อความสวยงาม

 

การรักษาหรือผ่าตัดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม เช่น การทำศัลยกรรมตกแต่ง การเสริมจมูก เสริมหน้าอก ดูดไขมัน หรือการรักษาผิวพรรณต่าง ๆ

 

5. การรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างการค้นคว้าทดลอง

 

การรักษาใด ๆ ที่ยังอยู่ในระหว่างการค้นคว้าทดลอง หรือยังไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างเป็นทางการ จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม

 

6. การรักษาภาวะมีบุตรยาก

 

การรักษาภาวะมีบุตรยากทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวินิจฉัย การรักษาด้วยยา หรือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ต่าง ๆ อย่างการทำเด็กหลอดแก้ว จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม

 

7. การตรวจเนื้อเยื่อเพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

 

การตรวจเนื้อเยื่อเพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ โดยทั่วไปจะไม่ได้รับความคุ้มครอง ยกเว้นในกรณีการตรวจเนื้อเยื่อเพื่อการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งประกันสังคมจะจ่ายค่าตรวจให้สูงสุด 7,000 บาท

 

8. การตรวจใด ๆ ที่เกินกว่าความจำเป็นในการรักษาโรคนั้น

 

การตรวจวินิจฉัยใด ๆ ที่เกินกว่าความจำเป็นในการรักษาโรคนั้น ๆ จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม ผู้ประกันตนควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับความจำเป็นในการตรวจแต่ละรายการ

 

9. การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

 

การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะส่วนใหญ่จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม ยกเว้นกรณีพิเศษ 2 กรณี ได้แก่

 

● การปลูกถ่ายไขกระดูก จะได้รับค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายในอัตรา 750,000 บาทต่อราย สำหรับสถานพยาบาลที่ให้บริการแก่ผู้ประกันตนจนสิ้นสุดกระบวนการปลูกถ่ายไขกระดูก โดยจะต้องเป็นสถานพยาบาลที่คณะกรรมการการแพทย์รับรอง และได้ทำความตกลงไว้กับสำนักงานประกันสังคม

● การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะกระจกตา จะได้รับเงินเหมาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาล 20,000 บาท และให้ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย 5,000 บาท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

 

10. การเปลี่ยนเพศ

 

การผ่าตัดหรือกระบวนการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนเพศ จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม

 

11. การบริการระหว่างรักษาตัวแบบพักฟื้น

 

ค่าบริการสำหรับการพักฟื้นในสถานพยาบาลหลังจากการรักษาหลักสิ้นสุดลง จะไม่อยู่ในความคุ้มครองของประกันสังคม

 

12. ทันตกรรม

 

การทำทันตกรรมจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม ยกเว้นในกรณี

 

● การถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด เบิกได้ 900 บาทต่อปี

● ฟันปลอมชนิดถอดได้บางส่วนจำนวนน้อยกว่า 5 ซี่ เบิกได้ 1,300 บาท หากมากกว่า 5 ซี่ เบิกได้ 1,500 บาท

● ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่างเบิกได้ 2,400 บาท แต่หากต้องทำทั้งปากบนและล่างสามารถเบิกได้ 4,400 บาท

 

13. แว่นตา

 

การตรวจวัดสายตาและค่าแว่นตาไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม ผู้ประกันตนจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองทั้งหมด

 

  

เตรียมตัวรับมือ เมื่อประกันสังคมไม่ครอบคลุม

 

จะเห็นได้ว่า มีหลายบริการทางการแพทย์และโรคที่ประกันสังคมไม่คุ้มครอง จึงจำเป็นต้องมองหาทางเลือกในการแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล เพื่อเตรียมตัวรับมือความเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

 

หาข้อมูลสิทธิอื่น ๆ ที่มีอยู่

 

● บัตรทอง (สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า) เป็นสิทธิพื้นฐานที่คนไทยทุกคนมี หากไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม โดยสามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

● สวัสดิการพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม หรือค่าเบิกจ่ายเพิ่มเติม ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับประกันสังคมได้

 

ทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม

 

● ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมเมื่อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

● ประกันโรคร้ายแรง ซึ่งให้เป็นเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจวาย เพื่อใช้จ่ายค่ารักษาหรือชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป อย่างไรก็ตามผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง ข้อยกเว้น และเงื่อนไขของแบบประกันสุขภาพก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

 

วางแผนการเงินล่วงหน้า

 

เตรียมความพร้อมด้านค่ารักษาพยาบาล ด้วยการแยกเงินออมส่วนหนึ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองของประกันสังคม โดยควรมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน

 

แม้ว่าประกันสังคมจะเป็นสวัสดิการสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ แต่ก็มีข้อจำกัดและไม่สามารถครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลได้ทุกกรณี การรับรู้ว่าโรคหรือการรักษาใดบ้างที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินและเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างเหมาะสม

 

นอกจากนี้ การทำประกันสุขภาพ จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ยังสามารถช่วยสร้างหลักประกันด้านค่ารักษาพยาบาล แม้จะเจ็บป่วยหนักก็มีเงินรักษา โดยไม่ส่งผลกระทบกับเงินออม และไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินในระยะยาว

 

สนใจซื้อประกันสุขภาพ PRUHealthcare Plus จาก พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต คลิกเลย

 

ข้อมูลอ้างอิง

เช็คก่อนใช้! 14 โรคยกเว้น ประกันสังคมไม่จ่ายให้