Date  
9th June 2025

โรคหัวใจ เป็นโรคร้ายแรงที่มักเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว และสามารถนำไปสู่ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจโรคหัวใจขาดเลือด ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุ อาการ และการป้องกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสรักษาหาย และรอดชีวิตมากขึ้น

 

โรคหัวใจขาดเลือดคืออะไร ?

 

โรคหัวใจขาดเลือด คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เนื่องจากหลอดเลือดแดงที่นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจเกิดการตีบหรืออุดตัน สาเหตุหลักมักเกิดจากการสะสมของไขมันหรือคราบพลัค (Plaque) ที่ผนังหลอดเลือด จนทำให้การไหลเวียนของเลือดลดลงหรือหยุดชะงัก หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อหัวใจ ซึ่งนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือที่เรียกกันว่าภาวะหัวใจวาย

 

โรคหัวใจขาดเลือดมีสาเหตุมาจากอะไร ?

 

โรคหัวใจขาดเลือด มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้

● อายุ ความเสี่ยงจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ชายที่อายุเกิน 45 ปี และผู้หญิงที่อายุเกิน 55 ปี

● พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ก็จะมีความเสี่ยงที่เป็นโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น

● โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

● การสูบบุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ มีฤทธิ์ทำลายผนังหลอดเลือด และเพิ่มการสะสมของไขมัน

● ความเครียดเรื้อรัง ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลหลั่งมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด

● ขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ และระบบไหลเวียนเลือดทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

● มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ เพิ่มภาระงานของหัวใจและเสี่ยงต่อโรคประจำตัวต่าง ๆ

● รับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง และมีส่วนผสมของเกลือหรือน้ำตาลมากเกินไป

 

โรคหัวใจขาดเลือดกับอาการที่พบได้บ่อย

 

การรู้จักอาการของโรคหัวใจขาดเลือดเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้รู้เท่าทันความผิดปกติที่เกิดขึ้น และสามารถเข้ารับการรักษาได้รวดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้

● เจ็บหรือแน่นหน้าอก รู้สึกเหมือนมีของหนักทับหรือบีบรัดหน้าอก อาจเป็น ๆ หาย ๆ หรือนานขึ้นเรื่อย ๆ

● หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่ายผิดปกติ แม้ทำกิจกรรมเบา ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยหอบ

● ใจสั่น หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เกิดจากการที่หัวใจสูบเลือดไม่เต็มประสิทธิภาพ

● เหงื่อออกเย็น ผิวซีด มือเย็น เท้าเย็น เนื่องจากร่างกายพยายามรักษาการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะสำคัญ

● คลื่นไส้ อาเจียน หรือรู้สึกแน่นท้อง โดยเฉพาะในผู้หญิงและผู้สูงอายุ

● ปวดร้าวไปที่แขน บ่า ไหล่ จุกใต้ลิ้นปี่ โดยอาการปวดจะนานขึ้น และลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย

● ปวดร้าวไปกราม คอหอย หรือแขนด้านในบริเวณสะบักทั้งสองข้าง ถึงแม้จะเป็นอาการที่ไม่อาจบอกได้ชัดเจน แต่ก็เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม

   

  

โรคหัวใจขาดเลือดมีวิธีป้องกันอย่างไร ?

 

โรคหัวใจขาดเลือดสามารถป้องกันได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกาย ดังต่อไปนี้

 

รับประทานอาหารที่ดีต่อหัวใจ

 

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันภาวะของโรคหัวใจได้ โดยควรเน้นการรับประทานอาหารเหล่านี้

● ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดเขียว ผักโขม บรอกโคลี

● ผลไม้ เช่น แอปเปิล กล้วย ส้ม องุ่น เบอร์รี อะโวคาโด

● ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต บาร์เลย์

● ปลาน้ำจืด เช่น ปลากะพง ปลาช่อน ปลานิล ปลาสลิด

● ปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า

 

ทั้งนี้ ควรลดการบริโภคเนื้อแดง เนื้อแปรรูป อาหารทอด และอาหารที่มีเกลือสูง รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก และควบคุมปริมาณของอาหารในแต่ละมื้อให้เหมาะสม

 

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และลดระดับไขมันในเลือด โดยควรออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก อย่างน้อย 60 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์

 

เลิกบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่

 

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด คือเลิกบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ เนื่องจากมีสารอันตรายที่ทำลายผนังหลอดเลือด และเร่งการก่อตัวของคราบพลัค ที่จะเข้าไปกีดขวางการไหลเวียนของเลือด

 

ควบคุมความเครียด

 

ความเครียดเรื้อรังสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น การทำสมาธิ โยคะ การหายใจลึก ๆ การฟังเพลง การทำกิจกรรมที่ชอบ จะช่วยผ่อนคลายความเครียด และทำให้จิตใจแจ่มใสขึ้น

 

ควบคุมโรคประจำตัว

 

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง การควบคุมโรคเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมาก อีกทั้งต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง รวมถึงติดตามผลการรักษาเป็นประจำ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามคำแนะนำของแพทย์

  

ตรวจสุขภาพประจำปี

  

การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้รู้เท่าทันความเสี่ยงและสามารถป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต ไขมันในเลือด และการทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จะช่วยให้แพทย์ประเมินสุขภาพหัวใจและให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้

  

ถึงแม้การรู้ทันโรคหัวใจขาดเลือด ทั้งสาเหตุ อาการ และการป้องกัน จะช่วยให้คุณหรือคนใกล้ตัวสามารถรับมือภาวะของโรคนี้ได้ดียิ่งขึ้น แต่การทำประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการเตรียมความพร้อมด้านค่ารักษาพยาบาล ทั้งยังช่วยสร้างความมั่นคงในเรื่องของค่าใช้จ่ายยามที่ต้องเจ็บป่วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง PRUCritical Care จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ทางออนไลน์ได้เลย

  

สนใจประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต คลิกเลย

 

หมายเหตุ

● ความคุ้มครองขึ้นกับแผนประกันภัยที่เลือก

● เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด

● ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

 

ข้อมูลอ้างอิง

รู้อาการ รักษาทัน ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

หัวใจขาดเลือด อย่าชะล่าใจ…อาการแบบไหนที่บ่งบอก

7 วิธีป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด สาเหตุสำคัญ อาการ และการรักษา

โรคหัวใจขาดเลือดเกิดจากอะไร? สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง